วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

อัพเดทข่าวแอดมิชชั่น ปี 54







            สวัสดีครับ.. วันก่อน พี่ลาเต้ นำการเปลี่ยนแปลงในระบบแอดมิชชั่นปี 54 ในส่วนของการสอบมาบอกให้ได้ทราบกัน และวันนี้ก็มาตามสัญญากับองค์ประกอบ และสัดส่วนที่เพิ่งถูกการปรับมาสดๆ ร้อนๆ และจะใช้ในแอดมิชชั่นปี54 ที่จะถึงนี้

            ในครั้งนี้ พี่ลาเต้ ขออนุญาตนำมาเฉพาะในคณะของสายวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็มีอยู่ทั้งหมด 5 หมวดด้วยกันครับ.. องค์ประกอบสัดส่วนแบบใหม่ เป็นอะไรบ้างนั้นไปอ่านกัน

 >>> กลุ่มคณะด้านวิทยาศาสตร์

            1.1 คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ ใช้สัดส่วน GPAX 20% , O-NET 30% GAT 30% และ PAT2 [เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์] 20%

            1.2 คณะเภสัชศาสตร์ ใช้สัดส่วน GPAX 10% , O-NET 20% GAT 20% , PAT 2 50%

            1.3 คณะสัตวแพทยศาสตร์ ใช้สัดส่วน GPAX 10% O-NET 30% , GAT 20% , PAT 2.1 [เคมี] 10% PAT 2.2 [ชีววิทยา] 20% , PAT 2.3 [ฟิสิกส์] 10% 

            1.4 คณะสหเวชศาสตร์ [เทคนิคการแพทย์/กายภาพบำบัด/กิจกรรมบำบัด] ใช้สัดส่วน GPAX 10% , O-NET 20% , GAT 10% , PAT1 15% , PAT 2.1 [เคมี] 15%  PAT 2.2 [ชีววิทยา] 15% , PAT2.3 [ฟิสิกส์] 15%

            1.5 คณะสาธารณสุขศาสตร์ ใช้สัดส่วน GPAX 10% , O-NET 30% , GAT 20% , PAT1 10% , PAT2.1 [เคมี] 10% ,PAT2.2 [ชีววิทยา] 10% , PAT 2.3 [ฟิสิกส์]  10%

            1.6 คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ใช้สัดส่วน GPAX 10% , O-NET 30% , GAT 20% PAT1 10% , PAT2 30%

>>> กลุ่มคณะด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ และชีวภาพ

            คณะวิทยาศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้สัดส่วน GPAX 10% O-NET 20% , GAT 10% ,PAT1 15% , PAT2.1 [เคมี] 15% , PAT2.2 [ชีววิทยา] 15% PAT2.3 [ฟิสิกส์] 15%

 >>> กลุ่มคณะด้านวิศวกรรมศาสตร์

            คณะวิศวกรรมศาสตร์ ใช้สัดส่วน GPAX 10% , O-NET 10% , GAT 20% , PAT1  20% , PAT3 40%

 >>> กลุ่มคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

            คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ใช้สัดส่วน GPAX 20% O-NET 30% , GAT 10% , PAT4 [ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์] 40%

 >>> กลุ่มคณะเกษตรศาสตร์

            คณะเกษตรศาสตร์ คณะวนศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร ใช้สัดส่วน GPAX 20%  O-NET 30% , GAT 10% ,PAT1 10% PAT2 30%

            หากเอาองค์ประกอบสัดส่วนนี้ไปเทียบกับปี 53 แล้วก็จะเห็นว่ามีหลายอย่างที่ไม่เหมือนกันนะครับ.. ดังนั้นฝากถึงน้องๆ ม.5.4 ลงไปหากจะศึกษาองค์ประกอบต้องศึกษาของใหม่นะครับ ไม่งั้นอาจจะเข้าใจผิดก็เป็นได้ครับ

            ส่วนองค์ประกอบสัดส่วนคะแนน ของคณะทางสายศิลป์ เช่น คณะบริหารธุรกิจ , คณะนิเทศศาสตร์ , คณะท่องเที่ยว , คณะครุศาสตร์ , คณะมนุษยศาสตร์ , คณะนิติศาสตร์ , คณะรัฐศาสตร์ รอติดตามในอัพเดทข่าวแอดมิชชั่นครั้งหน้าครับ





จาก : http://www.dek-d.com

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

วัยรุ่นไทยแห่เรียนภาษาญี่ปุ่น!!!



เดี๋ยวนี้วัยรุ่นไทยอะไรๆ ก็ดูจะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นไปเสียทุกอย่าง ทั้งการแต่งตัว แฟชั่นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแม้แต่ชุดนักเรียน ก็พยายามสรรหาความคิขุ น่ารักสไตล์ญี่ปุ่นมาเสกสรรปั้นแต่งกัน ล่าสุดพบว่าเด็กวัยรุ่นไทยหันมาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันเป็นแถว ด้วยเหตุผลที่ว่าชอบประเทศญี่ปุ่น แล้วสักวันหนึ่งฉันจะไปเยือนดินแดนอาทิตย์อุทัยนั่นให้ได้

น.ส.รัชดาภรณ์ เพชรวารา นักเรียนชั้น ม.5 สายศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เหตุที่เลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นก็เพราะชอบภาษาและ วัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่นที่มีความสวยงาม ดูเรียบร้อย เป็นระเบียบ ขณะเดียวกันก็มีความเจริญอยู่ในตัว บวกกับกระแสแฟชั่นญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงในขณะนี้ คิดว่าหากมีโอกาสก็จะไปเยือนประเทศในฝันของเธอสักครั้ง

เช่นเดียวกับเหตุผลของ น.ส.ทิพวรรณ หิรัญ นักเรียนชั้น ม.4 สายศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย จ.อุทัยธานี ที่บอกว่าตัดสินใจเรียนในสายนี้เพราะอยากไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เห็นในทีวีแล้วคิดว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นน่าสนใจ คนญี่ปุ่นน่ารัก และดูเป็นมิตร

แม้เด็กหลายคนจะให้เหตุผลว่าที่เลือกเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะชอบในวัฒนธรรมและเดี๋ยวนี้แฟชั่นญี่ปุ่นกำลังมาแรง แต่เด็กส่วนหนึ่งก็บอกว่าการเรียนรู้ภาษาที่ 3 ก็เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับชีวิตในปัจจุบัน

"หนูคิดว่าการเรียนภาษาแค่ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษเดี๋ยวนี้มันไม่พอ เราต้องรู้ภาษาอื่นเพิ่มเติมด้วยเพื่อจะนำไปใช้ในการทำงานในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาญี่ปุ่นกับภาษาจีนถือเป็นภาษาที่สำคัญ เพราะเดี๋ยวนี้มีธุรกิจจาก 2 ประเทศนี้มาเปิดในบ้านเรามากขึ้น" น.ส.ภุมรินทร์ ฉลองเนตร นักเรียนชั้น ม.5 สายศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนสมุทรปราการ กล่าว

ขณะที่น.ส.นาถนัดดา รักษ์ยุทธ์ จากโรงเรียนสมุทรปราการ กล่าวว่า การที่เด็กวัยรุ่นเดี๋ยวนี้แห่เรียนภาษาญี่ปุ่นนั้นถือเป็นเรื่องดี ที่เด็กหันมาสนใจหาความรู้ใส่ตัวกันมากขึ้น แต่การที่บางคนเห่อแฟชั่นเสียจนไม่เหมาะสม เช่นการแต่งตัวโป๊เพื่อแสดงความมั่นใจ หรือการแสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเอาอย่าง

"หนูคิดว่าเราเอาเยี่ยงเขาในทางที่ดีได้ แต่ไม่ใช่เอาอย่างทั้งหมด วัฒนธรรมบางอย่างของเขาที่ดีก็มีมาก เช่น ความมีระเบียบ ตรงต่อเวลา การเป็นแม่บ้านแม่เรือน สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เราควรนำมาใช้" น.ส.นาถนัดดา กล่าว พร้อมแนะนำว่า การเรียนภาษาต้องมีใจรัก และตั้งใจถึงจะเรียนได้ รวมถึงต้องนำไปใช้ในทางที่ถูกด้วย

ด้านนางบุศรา จวนวรชัย ผู้จัดการโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีเด็กวัยรุ่นให้ความสนใจเข้ามาเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อนำไปเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ อีกส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมตัวที่จะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้นางบุศรา ยังแนะนำว่าผู้ที่จะไปประเทศญี่ปุ่นนั้นก่อนอื่นต้องเตรียมพื้นฐานด้านภาษาให้ดี อย่างน้อยต้องสามารถสื่อสารได้ในระดับหนึ่ง และที่สำคัญคือต้องศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีการดำรงชีวิตของคนญี่ปุ่นด้วย เพื่อให้สามารถอยู่ที่ญี่ปุ่นได้อย่างมีความสุข


"จริงๆ แล้วโดยลักษณะนิสัยคนญี่ปุ่นเป็นคนน่ารัก เป็นมิตรและเข้ากับคนอื่นง่าย แต่การที่จะไปอยู่ประเทศเขาเราก็ต้องรู้จักวัฒนธรรมของเขาบ้าง เช่นเรื่องการใช้ห้องน้ำ ที่ญี่ปุ่นจะมีระบบแช่ในอ่างแต่ก่อนแช่ก็ต้องล้างตัวก่อน หรือการเข้าใช้ห้องอาบน้ำรวมในที่สาธารณะ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องสนใจ แล้วจะทำให้เราอยู่ได้ด้วยความสุข อีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องเงินที่จะต้องพร้อมเพราะค่าใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นสูงมาก" นางบุศรา กล่าว

ได้ฟังอย่างนี้แล้วคนที่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น เพื่อที่จะไปประเทศญี่ปุ่นก็คงต้องเตรียมการให้ดีก่อนนะจ๊ะ แต่ถ้าเรียนไปเพื่อเป็นพื้นฐานความรู้ล่ะก็สนับสนุนเต็มที่จ้า...



วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าวทั่วไป

น้องฟ้า น.ส.ชัญษร สาครจันทร์ สาวปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ เอกการโรงแรม ม.เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ คว้ารางวัลขวัญใจสื่อมวลชนไปครองเป็นรางวัลแรกของการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สในรอบตัดสิน ที่สยามพารากอน

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

โครงการ ICT Camp @ Rmutt

CT Camp RMUTT โครงการค่ายความรู้วิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ค่าย ICT สำหรับน้องๆที่สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารคอมพิวเตอร์ จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
 กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 29 เมษายน 2554 (ไปเช้า เย็นกลับ) ซึ่งจะมีกิจกรรมมากมายให้น้องๆได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์ โดยน้องๆสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรม
ได้วันนี้ ถึงวันที่ 18 เมษายน 2554 ค่าใช้จ่ายฟรี !!!
รายละเอียดและระเบียบการรับสมัคร ค่าย ICT CAMP ครั้งที่ 4
- กรอกใบสมัคร และใบมอบตัว พร้อมทั้งส่งเอกสารเข้า E-mail :p_ruglure@hotmail.com หรือ FAX เอกสารการสมัครที่  FAX : 025494622
- ส่งใบสมัครก่อน 18 เมษายน 2554
- ประกาศผลผู้ที่ได้รับการเข้าร่ว

มกิจกรรมวันที่ 20 เมษายน 2554 ทาง  www.ete.en.rmutt.ac.th
- กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 29 เมษายน 2554 (ไปเช้า-เย็นกลับ)
 

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

ดาวเด่น เด็กราชมงคล

       ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ฯ ที่ได้ทรงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามใหม่ให้กับวิทยาลัยเทคโนโลยีอาชีวศึกษา ภายหลังจากตราเป็นพระราชบัญญัติเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2518 ในชื่อสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ณ วันที่ 15 กันยายน 2531 เหล่าข้าผสกนิกรชาวบัวสวรรค์ทุกคนจึงถือฤกษ์งามยามดีให้วันที่ 15 กันยายนของทุกปี เป็นวันราชมงคล และเป็นศิริมหามงคลชัยพร้อมใจกัน กำหนดให้จัดงานพิธีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นประจำทุกปี

กว่า 3 ทศวรรค แห่งการสร้างรากฐานด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมงานวิจัยใหม่ๆ ออกมาสู่ผู้คนในสังคมไทยได้ร่วมชื่นชมตลอดมา จนถึงในยามนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยอีกครั้ง ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พร้อมกับแตกกิ่งก้านบานสะพลั้งเป็น 9 มหาวิทยาลัย สายลมโชยโปรยกลิ่นหอมฟุ้งมาจากฝั่งย่างคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี Connect Campus ฉบับนี้จึงขออาสาพาดาวสาวสวยเดือนหนุ่มหล่อ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซึ่งประกอบไปด้วยกวาง-ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ดาวคณะศิลปศาสตร์, เติ้ล-จารุภา ไชยอนุรักษ์ ดาวคณะครุศาสตร์อุสาหกรรม, ต้นอ้อ-สุนิสา ชุ่มดี ดาวคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน, กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา เดือนคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน, โอม-อาวุธ ยุทธวรวิทย์ เดือนคณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร และบอล-ชิรวุฒิ สิงห์เสนา Sport Boy and Girl ปี 2002 มาร่วมพูดคุยถึงความเป็นราชมงคลในแบบฉบับเด็กหน้าใสวัยเฟรชชี้...เฟรชชี่

Connect Campus : ราชมงคลในความคิดของน้องๆ คืออะไร
Rajamangala : ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาเรียน รู้สึกว่าราชมงคลเป็นสถาบันที่เน้นให้เราทุกคนได้รู้จักกับว่าการปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่สอนให้มีความรู้ทางวิชาการเพียงอย่างเดียว สอดคล้องกับแนวนโยบายของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ที่เริ่มจัดระบบการศึกษาให้เป็นแบบสหกิจศึกษา เน้นให้นักศึกษาได้มีโอกาสฝึกงานกับสถานประกอบการ เพื่อหาประสบการณ์ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ นั่นคือความได้เปรียบที่เราได้เน้นมาตลอด ดั่งคำขวัญของสถาบันที่กล่าวว่า ราชมงคล สร้างคนสู่งาน เชี่ยวชาญเทคโนโลยี

Connect Campus : ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่ราชมงคล
Rajamangala : ที่นี่มีชื่อเสียงมานานมากตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่ ยิ่งในเรื่องของทางด้านการวิชาชีพและเทคโนโลยี ราชมงคลเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยในเรื่องของการผลิตบัณฑิตออกไปปฏิบัติงานได้จริง นอกจากนี้ราชมงคลก็ยังโดดเด่นในเรื่องของสภาพแวดล้อมบรรยากาศที่สวยงาม เพียบพร้อมเหมาะสมกับการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่สำคัญเรื่องความรักใคร่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของรุ่นพี่รุ่นน้อง และความเป็นกันเองของคณาจารย์ ยิ่งทำให้เราอยากใช้ชีวิตนักศึกษาในรั้วบัวสรรค์แห่งนี้ให้มีความสุขที่สุด นั่นคือสาเหตุหลักที่ทำให้พวกเราเลือกเรียนที่นี่

Connect Campus : ความรู้สึกช่วงที่ผ่านมา กับการเป็นน้องใหม่ราชมงคล
Rajamangala : ดูแล้วคล้ายๆ กับว่าพวกเราคือหัวใจสีขาว ที่เริ่มถูกแต่งแต้มระบายด้วยสีน้ำเงินสีแห่งความเป็นราชมงคลทีละนิดทีละหน่อย เพื่อรอคอยพร้อมจะออกไปเป็นดอกบัวสรรค์เบ่งบานรับแสงแห่งรุ่งอรุณในวันข้างหน้า ซึ่งภูมิใจและดีใจที่พวกเราสามารถฟันฝ่าด่านการสอบคัดเลือกเข้ามาศึกษาต่อที่นี่ได้ ซึ่งตอนนี้พวกเราก็ปรับตัวได้ดีขึ้นพร้อมที่จะสนุกสนาน กับกิจกรรมต่างๆ ที่เตรียบไว้ให้น้องใหม่วัยเฟรชชี่ได้ร่วมทำอีกมากมาย
Connect Campus : ที่มาของการเข้าประกวดดาวเดือน
Rajamangala : ในช่วงชีวิตของเราทุกคนต่างคาดหวังว่า อยากให้มีเสี้ยวนาทีแห่งความภาคภูมิใจหรือเสี้ยวนาทีแห่งความยิ่งใหญ่สักครั้ง ซึ่งการประกวดดาวเดือนของสถาบันก็เป็นเวทีหนึ่งที่สามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ได้ ดังนั้นความเป็นตัวของตัวเองและความสามารถของเรา ที่พี่ๆ เพื่อนๆ ตลอดจนถึงอาจารย์ให้การยอมรับสนับสนุนให้เราเข้าร่วมประกวด จึงถือเป็นประสบการณ์ที่พวกเราทุกคนอยากทำอยากเข้าร่วม เพื่อเก็บความประทับใจเก็บบันทึกเรื่องราวความเป็นที่สุดที่ได้เคยสัมผัสถึงเสี้ยวนาทีแห่งความยิ่งใหญ่ ในฐานะนักศึกษารั้วมหาวิทยาลัยที่หาไม่ได้ง่ายๆ

Connect Campus : ความรู้สึกในฐานะดาวเดือน
Rajamangala : คำว่าดาวหรือเดือนฟังแล้วดูยิ่งใหญ่มาก ยิ่งเวลานี้ผู้คนรอบข้างยอมรับยกย่องเปรียบเทียบบุคลิกภาพหน้าตาความสามารถของเรา ให้เป็นดั่งความงามของดาวสวยเดือนเด่น สิ่งเหล่านี้คือการให้เกียรติการให้ความสำคัญจากผู้คนรอบข้าง ซึ่งต้องขอขอบคุณจากใจจริงและสัญญาว่า จะรักษาภาพพจน์ความเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลให้ดีที่สุด ตลอดจนช่วยทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์คณะรวมไปถึงการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ของสถาบันต่อไป

Connect Campus : คุณสมบัติความเป็นดาวเดือนในความคิดของน้องๆ คืออะไร
Rajamangala : ไม่จำเป็นที่จะต้องดูดีดูสวยหล่อไปซะหมด แต่ขอให้มีบุคลิกภาพความมั่นใจกล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงในแบบความเป็นตัวของตัวเองที่สร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นองค์ประกอบโดยรวมที่ส่งผลให้เราเป็นดาวเป็นเดือนในสายตาคนรอบข้างได้เช่นกัน

Connect Campus : ถ้าหากวันนี้เราไม่ได้เป็นดาวเดือน ตอนนี้น้องๆ คิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ 
Rajamangala : ก็คงเหมือนกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่ยังคงให้ชีวิตตามปกติทั่วไป เวลาเรียนก็เรียนเวลาทำกิจกรรมก็ทำตามปกติ แต่พวกเราก็ยังเชื่อว่าด้วยบุคลิกภาพหน้าตาความสามารถของตัวเอง ไม่ว่าเราจะอยู่ ณ แห่งใดก็ยังคงความเป็นดาวเด่นที่จะคอยช่วยเหลือทำกิจกรรมให้กับคณะและสถาบันต่อไป (แหม...ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ หละก็ พี่ก็คงเสียอกเสียใจแย่เลย ที่ไม่ได้มาถ่ายปกมาสัมภาษณ์น้องๆ ลงนิตยสาร)

Connect Campus : ในความคิดของน้องๆ ทำไมผู้หญิงต้องเป็นดาวผู้ชายต้องเป็นเดือน 
Rajamangala : เราเชื่อว่าของทุกอย่างที่อยู่บนโลกใบนี้ต้องเป็นของคู่กัน อย่างช้อนต้องคู่กับซ้อม สมุดคู่กับปากกา สร้อยคอคู่กับสร้อยข้อมือ เช่นเดียวกันความสวยผู้หญิงที่อยู่คู่เคียงกับความหล่อของชายหนุ่มรูปงาม เมื่อผู้คนที่ได้พบเห็นจึงมักเปรียบเปรยให้ความสวยของหญิงสาวเป็นเสมือนดั่งดาวพราวไสว ส่วนความหล่อคงสันของชายหนุ่มนั้นเป็นดั่งเดือนเด่นสีนวลตา คล้ายกับลักษณะนิสัยของผู้ชายที่จะต้องเป็นสุภาพบุรุษ คอยปกป้องรักษาสาดรัศมีนำทางดาวน้อยใหญ่ไว้เสมอ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสมอยู่สูงเหมือนกัน และคือความงดงามเมื่อยามค่ำคืนบนท้องนภาที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้อยู่คู่กันตลอดมา

Connect Campus : เห็นสวยๆ หล่อๆ แบบเนี่ย...ชอบสิ่งไหนมากกว่ากันระหว่างหน้าตากับคารม
Rajamangala : จริงๆ แล้วสิ่งที่เราสามารถมองเห็นจากภาพได้ง่ายที่สุดอย่างแรกก็คือรูปโฉมภาพนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่กล้าปฏิเสธ แต่เมื่อเราเกิดมาหน้าตาไม่เหมือนกันเรื่องของคารมหรือการพูดจาที่สุภาพอ่อนหวาน หรือมีวาจาเป็นอาวุธที่คอยโน้มน้าวใจผู้ที่อยู่ใกล้คล้อยตามน่าประทับใจ สิ่งนี้น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการตัดสินใจ เพราะถ้าหากหน้าตาดูดีแต่เวลารู้จักกันต้องร้องยี้ เพราะพูดจาไม่เข้าหูก็คงแย่มากกว่าและไม่มีใครชอบ แต่ถ้าทางออกที่ดีที่สุดก็คือต้องมาคู่กันหรือไม่ต้องสวยเกินร้อยหล่อเกินใคร แค่มีหัวใจที่คงมั่นก็พอ

Connect Campus : ฝากอะไรถึงเพื่อนๆ เกี่ยวกับเรื่องของการประกวด 
Rajamangala : อย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จถ้ายังไม่ได้เริ่มลงมือทำ ยิ่งถ้าเป็นในเรื่องของการประกวดแล้วหละก็ ขอให้มีความมั่นใจในความสามารถเป็นตัวของตัวเอง และพยายามมุ่งมั่นตั้งใจทำความฝันให้ดีที่สุด สิ่งเหล่านี้จะคอยผลิดอกออกผลสร้างสมประสบการณ์อันมีค่าให้เราในวันข้างหน้า ขอเป็นกำลังใจในทุกความฝันของทุกคน

หากเจ้าหญิงผู้เลอโฉมหรือเจ้าชายผู้ทรงงามสง่า อาจจะยังเป็นสิ่งที่ผู้คนธรรมดาสามัญชนไม่อาจเอื้อมือไขว่คว้าหรือจับต้องได้ แต่การได้มีโอกาสสัมผัสแห่งความน่ารักสดใส และไหวพริบปฏิภาณการตอบคำถามของเขาและเธอ สิ่งเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนความโดดเด่นที่คอยสาดเส้นแสงความงดงามของคนทั้ง 6 คน ให้กลายเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายในดินแดนเขตบัวสวรรค์แห่งราชมงคลตลอดไป 

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ประวัติความเป็นมา
พ.ศ.2518 วิทยาลัยครูอาชีวศึกษาได้เปลี่ยนเป็นวิทยาเขตเทเวศร์ เป็น 1 ใน 31 วิทยาเขต ที่สังกัดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เปิดสอน หลักสูตรระดับ ปวส. และ ปม. และได้จัดตั้งคณะวิศวกรรมเทคโนโลยี ณ สถานที่แห่งนี้ด้วยซึ่งเป็นคณะที่เปิดสอนระดับปริญญาตรี สาขาช่างอุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาคุรุศาสตร์ อุตสาหกรรม
พ.ศ. 2530 ได้มีนโยบายและจัดทำโครงการ การย้ายคณะต่างๆ ไปยังศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พ.ศ. 2548 จากพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธย และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าว เปลี่ยนจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ตามพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2518 เป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ปัจจุบันได้ผลิตวิศวกรออกไปสู่ตลาดอุตสาหกรรมแล้วกว่า 10,000 คน

นโยบายคุณภาพ
"เรามุ่งมั่นจัดการศึกษาวิชาชีพและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ ตอบสนองความพอใจของผู้รับบริการ ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง"

วิสัยทัศน์
"คณะวิศวกรรมศาสตร์ มุ่งผลิตบัณฑิตสาขาวิศวกรรมศาสตร์ นักปฏิบัติการที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี มีคุณภาพ และคุณธรรม และมุ่งพัฒนาสู่ความเป็นมาตรฐานสากล"

พันธกิจ
1. ผลิตบัณฑิตสาขาวิศวกรรมที่เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน
2. สร้างผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นประโยชน์
3. มุ่งจัดการศึกษาและดำเนินงานสู่ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีและวิชาชีพ
4. เป็นศูนย์บริการความรู้ทางวิชาการ วิชาชีพและเทคโนโลยี ที่เหมาะสมแก่อุตสาหกรรม ชุมชนและสังคม ทั้งในและต่างประเทศ
5. ทำนุบำรุงศาสนา ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยและรักษาสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายของคณะ
1. ผลิตบัณฑิตในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ จำนวนไม่น้อยกว่า 800 คนต่อปี โดยมุ่งเน้นให้บัณฑิตมีความรู้และทักษะ ในวิชาชีพวิศวกรรมตามสาขาที่สำเร็จตามเกณฑ์ที่หลักสูตรกำหนด
2. ผลิตบัณฑิตให้มีคุณลักษณะตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ ผู้ใช้บัณฑิต และมีงานทำอย่างน้อย ร้อยละ 60
3. สร้างผลงานวิจัย และสิ่งประดิษฐ์ หรือนวัตกรรม ที่มีคุณภาพอย่างน้อย 15 เรื่องต่อปี
4. มีการประกันคุณภาพการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
5. ให้บริการทางวิชาการด้านวิศวกรรมศาสตร์แก่สังคมอย่างน้อย 10 โครงการ และหรือ 300 คนต่อปี
6. ให้มีกิจกรรมด้านศาสนา จริยธรรม ศิลปวัฒนธรรม หรือสิ่งแวดล้อม ไม่น้อยกว่า 7 โครงการต่อปี

กลยุทธ์ของคณะฯ
1. ปรับส่วนการรับนักศึกษา และผลิตบัณฑิต (เป้าหมายที่ 1)
2. ปรับหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและตลาดแรงงาน รวมทั้งให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล (เป้าหมายที่ 1 2)
3. สร้างแรงจูงใจและส่งเสริมให้มีการสร้างงานวิจัย หรือสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใข้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ (เป้าหมายที่ 3)
4. พัฒนาคณาจารย์ และบุคลากรของคณะฯ (เป้าหมายที่ 1 2 3 4 6)
5. พัฒนาคุณภาพงานวิชาการด้านเทคโนโลยี และวิชาชีพไปสู่ความเป็นเลิศ (เป้าหมายที่ 3 4 5)
6. จัดทำระบบประกันคุณภาพการศึกษาของคณะฯ (เป้าหมายที่ 4)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.en.rmutt.ac.th

เวบพวกพี่ :http://www.thaicpe.com
 

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

ผลงานการถ่ายทำ จากฝีมือเด็กคลอง 6







การถ่ายทำเทคนิคBullet-time Photography ถ่ายทำด้วยกล้องKodak แบบSingle Use Camera จำนวน 30 ตัว โดยทำการวางกล้องเป็น Curve ความยาวCurve 5 เมตร ทำมุม 90 องศา ห่างจากตัวแบบเป็นระยะ 3 เมตร ผู้ผลิต:นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน

Purposive Educational techniques Bullet Time Photography.Experimental imaging moving objects. Still camera with a Single Use Camera 30. The purpose of making friends try to picture the image is similar to the technique Bullet Time. The lower cost. The camera slides used in the transformation 30. Study produced by the media presentation techniques, shooting Bullet - Time Photography 2 minutes Then came the picture editing with Adobe premier Pro CS3 software and programs used to customize the After Effect. And check the results of similar techniques Bullet Time.Measured by the audience with knowledge of photography and film. And who have no knowledge of the film. The questionnaire was that Media offer was strong.
So form a group of technical studies to test the performance. Can visualization technique. Bullet-Time is. Moreover, the use of relatively low budget. Probability photography interesting alternative.








และนี่ผลงานที่ เสร็จแล้วของ เด็กราชมงคล คลอง6









เรื่องเหล่านี้...เด็กราชมงคลคลองหกตัวจริงต้องรู้!

ความรู้ทั่วไป
- ราชมงคลธัญบุรี ชื่อเดิมคือ ศรม.(ศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล)
- ปัจจุบันชื่อว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
- เป็นมหาวิทยาลัยที่มีน้ำล้อมรอบ ด้านหลังติดบึงพระรามเก้า ข้างหน้าคลองรังสิต ด้านข้างก็คลอง อีก
ด้านนึงต้องเรียกบึงรึเปล่าเนี่ยไม่แน่ใจ
- เรียกสั้นๆว่า รม. (รอ มอ)
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จมาพระ
ราชทานปริญญาบัตรพร้อมกันทั้งสองพระองค์



เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- หอนอกที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ คือ หอพักเหลืองถาวร มีหลายตึกมากๆ
- ปัจจุบันปี 2007 Zoom ได้ครองอำนาจเหนือทุกหอ สุดหรูหราอลังการงานสร้าง เข้าไปแล้ว
ไฮโซจริง ติดอย่างเดียวทางเข้าน่ากลัว
- หอพักที่มีคนบ่นเป็นเสียงเดียวว่า เฮงซวยสุดๆคือ "นริศอาภา" เหตุเพราะ ทั้งเอาเปรียบ งี่เง่า
กฎเยอะ ขี้โกง ใครเคยอยู่รู้กันดี
- สถาบันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ สถาบัน"เด็กคลอง"
- ตอนเย็นๆ ของวันพุธจะมีชาวชมรมพุทธศาสนา ถือโทรโข่งซ้อนมอไซค์มาประกาศรอบๆ มหาลัยกับ
ชาวหอต่างๆให้ไปตักบาตรตอนเช้าวันพฤหัส
- ปัจจุบันยังเป็นเช่นเดิม แถมให้นิดทุกต้นปีจะมีการตักบาตรพระครั้งใหญ่ในพรธิสาร
- เด็กทีนี่ชอบขี่มอไซค์กันมากกว่าเดิน ใครมีมอไซค์เนี่ยก็หรูแล้วว
- มีหอประชุมไว้รับปริญญเอง (ทุกราชมงคลจะมารับรวมกันหมด)
- โรงอาหาร 7 ชั่วโคตรสร้างเสร็จแล้ว แต่ไม่ค่อยมีนักศึกษาใช้บริการมากนักถ้าเทียบกับจำนวน
นักศึกษาทั้งหมด

(โรงอาหารอีกแห่งเรียกว่าพวงชมพู)(พวงชมพูมาจากผู้หชิง ที่ขายอาหารอยู่ที่นั้น นั้นเอง)
- ตึกสถาปัตย ขึ้นชื่อว่า 7 ชั่วโคตร 2 ปัจจุบันมีลิฟท์แล้วแต่หน้าฝนน้ำท่วมถึงชั้น 8
(ตึกวิศวะสร้างทีหลังเสร็จก่อนแถมสูงที่สุดในมหาวิทยาลัย)
- ก่อนตึกสถาปัตยเปิดใช้ยืมตึกบริหารธุรกิจตึก 3 ใช้
- รถโดยสองแถวในมหาวิทยาลัยเรียกรถไบโอดีเซล
- หน้าตึกบริหารตึก 4 เรียกตึกครุอุด (ครุศาสตร์เทคโนโลยี)
- มีห้องพยาบาลที่นักศึกษาไม่รู้ว่ามีอยู่
- มีสระว่ายน้ำ กับสนามเทนนิส ที่นักศึกษาไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน
- ถ้าผู้ชายไม่ใส่ชุดว่ายน้ำไม่ให้เข้าสระ
- ตึกศิลปศาสตร์ มีสวนสวยกว่าตึกวิทยาศาสตร์ ที่แถบนั้นไม่มีต้นไม้เลย
- มีสนามซอฟต์บอลที่เอาไว้เล่นอเมริกันฟุดบอล


เชื่อหรือไม่?
- ทุกคนที่ลงรถเมล์มาต้องเดินข้ามรั้วเตี้ยๆเข้าสถาบัน เพราะเขากลัวนักศึกษาได้รับความสะดวก
สาวกระโปรงสั้นได้โชว์ก็ตรงนี้ล่ะ
- ตึกวิดวะคอมที่อยู่ใกล้โรงอาหารมากที่สุด ไม่ควรเดินผ่านช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ เพราะจะมีพวกรุ่นพี่
แกล้งน้องปีหนึ่ง โดยใช้คนเดินผ่านเป็นเหยื่อ(คนส่วนใหญ่จะนั่งรถผ่านไปแทน หรือไม่ก็เดินอ้อมไปทางตึก
สบ. แต่คิดว่าจะรอดหรือ ยังมีวิดวะอีกหลายภาควิชาที่ซุ่มรออยู่ในโรงอาหาร และตามตึกของคณะต่าง ๆ
)
- สะพานเข้าหมู่บ้านพรธิสารอยู่ใกล้นิดเดียวแต่ต้องขับรถอ้อมไปออกประตูห่างออกไปเกือบครึ่งกิโล
- ประตูที่เข้าออกหมู่บ้านพรธิสารได้สะดวกนี้เปิดใช้งานปีละครั้งเพื่อความสะดวกตอนงานรับปริญญาแล้ว
ก็ปิดเพื่อความไม่สะดวกเหมือนเดิม
- มาเฟิร์มว่าร้อนๆๆๆๆสุดๆๆ เพราะเนื้อที่กว้างมาก ต้นไม้เพิ่งปลูกเลยโตไม่ทัน
- ปัจจุบันก็ร้อนอยู่แถมต้นสนโดนตัดขายอีก เฮ้อ!กลุ้ม
- ตั้งแต่เข้าเรียนมา4ปีเคยไปกินข้าวที่โรงอาหารนับได้ไม่เกิน 10 ครั้ง
(นอกนั้นมันปิดเพราะสร้างไม่เสร็จซักที)
- โรงอาหารเห็นด้วย ว่า อมตะมหานิรันดร์กาลมากๆๆ สร้างนานสุดๆ เริ่มสร้างในปี 41
(แก้ไขจากปี44)เสร็จประมาณปี46-47 (ใครรู้ข้อมูลที่แน่นอนรบกวนแก้ให้ด้วย)
- โรงอาหารเจ็ดชั่วโคตรสร้างเป็นโรงอาหารแบบคู่แต่เหมือนปิดร้างไม่ได้ใช้หนึ่งด้าน
- สถานที่เตะบอลที่สนุกที่สุดคือโรงอาหาร(7 ชั่วโคตร)
- คนนอกมักจะเข้ามาเตะบอลในโรงอาหารที่ไม่ได้เปิดใช้ และแถมยังเตะบอลใส่ป้ายไฟเลื่อนจนเสีย
โดยที่ไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ
- แม้ในบางครั้งจะมีอาจารย์มาใช้โรงอาหารส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน สอบวิชาพละศึกษา แต่พอได้เวลา
(ประมาณ 4 โมงเย็น) ก็จะมีกลุ่มคนนอกมายืนกดดันเพื่อที่จะเล่นฟุตบอล(ใครจ่ายค่าเทอมหว่า)
- ปัจจุบันโรงอาหารส่วนนี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสนามบาสที่ใช้เล่นฟุลบอลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ตึกวิศวะสร้างนานกว่าโรงอาหารเจ็ดชั่วโคตร ตอนนี้ไม่รู้ว่าใช้ได้หรือยัง สร้างตั้งแต่ปี 41มั้ง
- ตึกวิศวะสร้างเสร็จและเปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการในปี 48
- ร้านเหล้า ชื่อวีนาเล่ เด็กที่นี่เคยไปกันแทบทั้งนั้น
- ปัจจุบันมันหายไปแล้ว เดี๋ยวนี้ต้องมาหาลัย
- มีชมรมอาสาพัฒนาที่ยึดมั่นในอุดมการณ์มาก มีพี่ๆบางคนมัวแต่ไปสร้างโรงเรียนให้น้องๆชนบทจนต้อง
เรียนจบช้าเป็น5 ปีบ้าง แต่พี่ๆก็น่ารักทุกคนเลยน๊า อันนี้ขอปรบมือให้
- ปัจจุบันชมรมนี้ยังอยู่ แต่ปีนี้ยังไม่เห็นผลงานเลย ปีก่อนนู่นขอรับบริจาคผ่านทาง Itv ค่ะเพื่อสร้าง
โรงเรียนให้เด็กในชนบทชมรมนี้เป็นหน้าเป็นตาของ รม.
- นักศึกษาหญิงปี 1 ที่นี้ไม่มีใครไม่เคยใส่เสื้อคลุม และกางร่มเดิน เมื่อเข้ามาในเทอมแรก
- มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีใครเข้ามาแล้วไม่ดำ (แดดแรงมาก)
- เด็กอยู่หอแทบไม่มีใครไม่รู้จักข้าวมันไก่ตาเปี๊ยก
- หอหญิงนอกที่ไม่มีใครอยากอยู่ หอนรกอาภา (ชื่อจริงๆว่า นริศอาภา)
- หอในราคาแพงกว่าหอนอก
- หอ ก ไก่ เป็นหอที่ดังมาเมื่อก่อนปัจจุบันแทบจะไม่มีคนรู้จัก
- แต่ก่อนหลัง 3 ทุ่ม ถ.พรธิสารเงียบสุดๆ จนเอารถป๊อบออกมาแข่งกันได้
- แต่ตอนนี้ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ หรือช่วงจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00-20.00 รถจะแน่น
พรธิสารสุดๆ วันอังคารกับวันศุกร์มีตลาดนัด ยิ่งแน่นสุดๆ
- 7-11 ในโรงหารเป็น 7-11 ที่ปิดในเวลา 2 ทุ่ม
- 7-11 ในโรงอาหารเปิดๆ ปิดๆ ไม่รู้ว่าขาดทุนหรือเปล่า
- รองเท้าแตะคู่ละ 19 บาทก็หายได้ เมื่อไหร่ที่ต้องถอดรองเท้าขึ้นตึก (ไมรู้มานจาเอาไปทำอาราย
)
- มีชมรมทักษิณราชมงคล และหลายๆอย่างที่ support เด็กใต้ เพราะมีเด็กจากภาคใต้มาเรียนที่นี่
เยอะมาก
- ที่ราชมงคลคลองหก ไม่มีเสาไฟฟ้าตั้งเรียงรายเหมือนมหาวิทยาลัยอื่น เพราะจัดระบบไฟทั้งหมดและ
สายต่างๆ เอาไว้ใต้ดิน ซึ่งมีราคาแพงกว่าระบบปกติที่อยู่บนดินถึง 3 เท่า
- เป็นมหาวิทยาลัยที่น้ำท่วมยากมาก เพราะมีแหล่งน้ำล้อมรอบเยอะ
- รถเมล์ สาย538 สาย 188 และรถตู้ที่เข้ารังสิต จะออกจากคลองหก แล้วไปติดตรงคลอง 1,2
และติดตรงโค้งเข้ารังสิตเสมอ ยิ่งตอน ชม. เร่งด่วนจะรอนานมาก กว่าจะได้ออกก็แย่
- ซอยบัญชาอุทิศเป็นซอยที่มีกะเทยเยอะมากๆ
- ซอยบัญชาอุทิศเช่นเดียวกัน เป็นซอยที่ คนที่เดินถนนมักจะด่ารถที่ขับ คนที่ขับรถก็มักจะด่าคนเดิน แต่
จริงๆแล้วคนที่เดินน่าด่าที่สุด เพราะเดินแถวหน้ากระดาน ขวางถนนมากๆ จนมีการ
เบิ้ลเครื่องใส่กันหลายครั้ง (ทำไมไม่บีบแตรนะ)
- เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่อนุญาติ ให้นักศึกษาไว้ผมยาวได้ ทั้งๆที่มหาลัยทุกๆ
มหาลัยในไทยวิศวสามารถไว้ผมยาวได้หมด(คงเพราะ ความจริงถ้าไปทำงานในโรงงาน ทำงานกับ
เครื่องจักรผมยาว ไปติดเครื่องจะตายเอา
- ปัจจุบันคณะวิศวะยังบังคับซื้อเสื้อ shop 2 ตัว แต่ตามกฏของคณะไม่อนุญาติให้นักศึกษาใส่มาเรียน
- นักศึกษาวิศวที่นี่ โดยสัดส่วนแล้ว จะมีปัญหากับวิชาแคลคูลัสเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเด็ก ปวช
มาก่อนพื้นฐานด้านนี้เลยไม่มี (แต่เด็กที่จบ ม.ปลายมา แล้วไม่ผ่านแคลคูลัสก็มีค่ะ)
- จะมีคนมาเล่นสไลด์ที่ลานบัวเหล็กตอนเย็นๆเสมอ โดยเอากระดาษลังเบียร์มาวางแล้วนั่งบนกระดาษ
ลังเบียร์ แล้วสไลด์ลงมาตรงทางลาดที่บัวเหล็ก
- ตอนจ่ายเงินค่าลงทะเบียนที่ ธ.กรุงศรีฯ วันจ่ายจะมีเวลาให้ 7 วัน(รวมเสาร์อาทิตย์)และแต่ละวัน
คนจะไปจ่ายเงิน และอัดเป็นปลากระป๋องอยู่ในธนาคารเยอะมากๆ
- อ. ที่นี่หลายๆท่านส่งเกรดช้าสุดๆ ทุกๆคณะ โดยเฉพาะคณะใหญ่เช่น บริหารและวิศว บางท่านเป็น
เทอมก็ยังไม่ส่งเกรด
- เวลาแข่งเชียร์กีฬาประจำมหาวิทยาลัย(บัวน้ำเงิน) คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์ จะร้องเพลงเพราะๆ
มากๆจนน่าขนลุกทุกปี
- เมื่อปีการศึกษา 2549 ในการแข่งขันกีฬา "บัวน้ำเงินเกมส์" คณะที่ได้อันดับหนึ่ง ในการแข่งขัน
ประเภทผู้นำเชียร์ คือคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ซึ่งมีงบประมาณรวมกันทั้งคณะ ยังไม่เท่ากับคณะบริหาร
ภาควิชาเดียว( และที่วิศวะ ไม่ได้เพราะเน้นแต่พลัง ไม่รู้ว่าจะบ้าไปถึงไหน ความเพราะไม่ได้มีกะเค้า
เลย)
- ในระยะทาง 2 กิโลเมตรนับจาก บัวเหล็ก มี เซเว่น อีเลฟเว่น นับ 10 ที่ได้ ไม่แน่ใจว่าจะเปิด
ไว้เพื่อเทียบราคาหรืออย่างไร
- ทีมบอลที่ห่วยที่สุดคือ ครุ ปาสติก

- โต๊ะบอลที่อยู่ยั้งยืนยงมาร่วม10กว่าปีได้แล้วมีอยู่2ที่ คือโต๊ะพี่ฝน ที่สมัยก่อนชื่อโต๊ะเจ๊ลั้ง แล้วก้อมา
เป็น สเตปแมน แล้วทุกวันนี้ชื่ออะไรไม่รุ้แล้วว่ะ อีกที่คือ โต๊ะลุงเขียว ชื่อปัจจุบันไปหากันเอาเอง

- ในสมัยที่พี่เข้ามา โซนที่เป็นโซนนิ่ง ของพรธิสารคือ เซเว่นสอง ซึ่งถัดไปหน่อยจะเป็นร้านเหล้า ชื่อ
"ร้านเล่า" ตรงข้ามจะเป็น"เวเนเร่"(ชื่อเวเนเร่จริงๆ ยืนยัน)เยื้องกันมาหน่อย จะเป็นเอ็นเจ
- สาวๆสมัยนั้น ยังคงยึดคติ ปีหนึ่งอยู่กับเพื่อน ปีสองอยู่กับผัว ซึ่งสมัยนี้มันเร็วกว่ากันมาก
- ข้าวมันไก่ตาเปี๊ยกเนี่ย เดิมเคยอยู่ตรงตึกด้านหน้า เลยเซเว่นหนึ่งมาหน่อย ติดกับหอนริศอาภา
- ยุคนั้น ถ้าใครร้อนเงิน ต้องไป โรงรับจำนำตลาดรังสิต ที่เดียว ยกเว้นทอง ซึ่งสมัยนั้น มีร้านทอ
งอยุ่ร้านเดียว ตรงพรธิสารเก่า
- ยุคนั้น คนสั่ง สเปย์ มากกว่าฮันเดรด
- ถ้าอยากจะกินอะไรแปลกๆ ลองเข้าไปในพรธิสารดู แถวซอย 55 จะมีร้านอยู่ปากซอย ลองสั่งข้าวมัน
เป็ดดู อร่อยอย่างแรง
- ช่อจันทน์ เป็นสถานที่ที่สาวไม่สวย แถมแพงอีกต่างหาก ถ้ามีฝีมือจริงๆ หาจีบตามร้านเหล้าดีกว่า เชื่อ
พี่
- หอ อาร์เอส เป็นหอหญิง หอแรก ที่ดำเนินการ เป็น "หอหญิง" แบบมีกิจจะลักษณะ
- ใครถ่ายรูปกับบัวเหล็ก ตอนที่ยังเรียนอยู่ จะทำให้เรียนไม่จบในสี่ปี
- เวลาดึกๆ กัญชา หาได้ง่ายกว่า ผู้หญิงสวยๆซักคน
- ร้านระรื่น เป็นร้านที่ขายเหล้าปั่นเพียงอย่างเดียว และอยู่มาได้ นานที่สุด ในขณะที่ร้านอื่นขายเหล้า
ปั่นแข่งกันบ้าง แต่ล้มหายตายจากไปหมดแล้ว
- รีลิส เมื่อก่อนชื่อ ร้าน ดื่มด่ำ
- น้ำประปาในพรธิสาร ร้อนมาก หน้าหนาวอาบสบาย หน้าร้อนนี่ไม่ต้องพูดกัน


* เป็นเรื่องที่มาจาก Forword Mail นะครับ ^^

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

For Kids in Thailand

Keeping the children entertained is never really a problem in Thailand. There is plenty for them to do and Thailand is very much a ‘child friendly’ country…
Thailand is one of the most family friendly holiday destinations in the world. One thing is for sure – Thais love children, especially children from other countries. You’ll always have someone willing to take of your child from you, and whenever you go out you’ll have crowds of women clucking around and apparently pinching your child while they say ‘Narag’ - ‘cute’ in Thai. Be warned: Such is their devotion to foreign children you will find Thai women can often plead to hold your child. If you allow them to, don’t turn your back! Your child will be passed around and in the end you might have trouble working out where he or she is! Thailand does though have a tradition of catering for families on holiday, so wherever you go, your child will be well looked after. There’s also plenty for families to do in Thailand… plenty of places to take the children and enjoy yourselves. Thailand has a number of theme parks that parallel anything you might come across elsewhere in the world. In addition, Thailand’s parks are full of family based activities (bike riding, etc.). Zoos and animal parks are also plentiful. You won’t have much trouble entertaining the children when you are in Thailand!




<meta name="stats-in-th" content="o8o0" />