วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิธีการเอา Chat Facebook อันเก่ากลับคืนมา (Chrome Only)



         เบื่อกันไหมครับ สำหรับแชทแบบใหม่ของfacebook ที่เราไม่สามารถเลื่อนดูเพื่อนๆ ทั้งหมดได้เลย ทำอะไรไม่ค่อยจะถนัดซักเท่าไหร่ วันนี้มีทางแก้ สำหรับคนที่ใช้ Chrome นะครับ ตามนี้เลย

1. ไปที่ http://userscripts.org/scripts/show/107159 จากนั้นกด install ตามรูปเลยครับ



2. โหลดมาแล้ว  รอซักพัก มันจะloading ไม่ต้องตกใจ


3. กด F5 เพื่อrefresh  ถ้ายังไม่ได้ ก็รีสตาทเครื่องใหม่ มันก็จะกลับมาเป็นแชทแบบเดิมแล้วครับ มีสไลด์เลื่อนได้





Credit :: http://facebook.maahalai.com/setting/551

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เด็กใต้สุดยอด!! คว้ารางวัลวิทย์ฯ ระดับโลก

ป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนไทยค่ะ ที่สุดยอดเยาวชนไทยจากจ.สุราษฎร์ธานี ไปสร้างชื่อเสียงทางวิทยาศาสตร์ระดับโลกมาให้ผู้ใหญ่ได้ชื่นชมกัน โดยคว้ารางวัลใหญ่จากเวทีการแข่งขันโครงงานทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก Intel ISEF 2011 ซึ่งนับเป็นทีมแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ชนะรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์จากมูลนิธิอินเทลอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วไม่ปรบมือให้ไม่ได้แล้วค่ะ (แปะ แปะ แปะ)
          การประกวดผลงานทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติ หรือ อินเทลไอเซฟ (Intel ISEF) เป็นการแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก ที่มีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์กว่า 1,500 คน จาก 65 ประเทศทั่วโลก มาร่วมแข่งขันกันชิงทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐ และนับเป็นการประกวดเพียงรายการเดียวของโลกที่ครอบคลุมวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ มากที่สุด

เด็กดีดอทคอม :: เด็กใต้สุดยอด!! คว้ารางวัลวิทย์ฯ ระดับโลก
น้องๆ เจ้าของโครงงานพลาสติกจากเกล็ดปลา จากโรงเรียนสุราษฎร์ธานีพิทยา

         ซึ่งผลงานของน้องๆ ในปีนี้ได้แสดงศักยภาพสุดเจ๋งให้โลกได้เห็น ด้วยการคว้ารางวัลใหญ่จากเวทีนี้ได้สำเร็จ จากโครงงานวิทยาศาสตร์ พลาสติกจากเกล็ดปลา (Bio-Based Packaging Plastics from Fish Scale) โดย นายพรวสุ พงศ์ธีระวรรณ, นางสาวธัญพิชชา พงศ์ชัยไพบูลย์ และนางสาวอารดา สังขนิตย์ จากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จ.สุราษฎร์ธานี มีนายเฉลิมพร พงศ์ธีระวรรณ และนางสุวารี พงศ์ธีระวรรณ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา โครงงานนี้คว้ามาได้ถึง 3 รางวัลเลยค่ะ

  • รางวัล Intel Foundation Young Scientist Award เป็นรางวัลสูงสุดในการประกวด มอบแก่โครงงานที่ดีที่สุด ซึ่งทีมไทยนับเป็นทีมแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้ที่ชนะรางวัลนี้ โดยมีเงินรางวัลสูงถึง 50,000 เหรียญฯ
  • รางวัล Best of Category ในสาขาการจัดการสิ่งแวดล้อม จากทั้งหมด 17 สาขาการแข่งขัน มีมูลค่าเงินรางวัล 5,000 เหรียญฯ
  • รางวัล Grand Awards อันดับที่ 1 ในสาขาเดียวกัน มูลค่าเงินรางวัล 3,000 เหรียญฯ นอกจากนี้ชื่อของเยาวชนไทยทั้ง 3 คนนี้จะได้รับเกียรติให้นำไปตั้งเป็นชื่อดาวเคราะห์น้อย (Minor Planet) โดย Massachusetts Institute of Technology - Lincoln Laboratory, Ceres Connection อีกด้วย


เด็กดีดอทคอม :: เด็กใต้สุดยอด!! คว้ารางวัลวิทย์ฯ ระดับโลก
ภาพน้องๆ เยาวชนที่ได้ไปร่วมแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับโลก Intel ISEF 2011 ในงานฉลองความสำเร็จฯ

         นอกจากนี้โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ผลของฟิล์มมิวซิเลจจากเมล็ดแมงลักต่อการยืดอายุการเก็บรักษาชมพู่หลังการเก็บเกี่ยว ผู้พัฒนาคือ นายธนทรัพย์ ก้อนมณี, นางสาววรดา จันทร์มุขและนายนรินธเดช เจริญสมบัติ จากโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.เพชรบุรี โดยมีนายศาสตรา พรหมอารักษ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ได้รับรางวัลที่ 4 Grand Award สาขาวัสดุศาสตร์และชีววัสดุ ประเภททีม มูลค่าเงินรางวัล 500 เหรียญสหรัฐ

        เรียกได้ว่าแจ้งเกิดแบบภาคภูมิใจกันยกแกงค์แถมยังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกด้วย พี่มิ้นท์ขอยกย่องเด็กไทยกลุ่มนี้ให้เป็นไอดอลของคนที่รักวิทยาศาสตร์และหวังว่าน้องๆ จะได้แรงบันดาลใจในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศต่อไป แต่กว่าจะเก่งได้แบบนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความมานะของน้องๆ ด้วยนะ และที่สำคัญผู้ใหญ่ก็ควรให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม ทุกอย่างถึงจะสำเร็จได้ด้วยดี แต่จากความสำเร็จครั้งนี้ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าเด็กไทยก็เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

AAU สถาบันศิลปะ พร้อมสาขาที่น่าเรียนสุดๆ

เด็กดีดอทคอม :: AAU สถาบันศิลปะ พร้อมสาขาที่น่าเรียนสุดๆ

           มหาวิทยาลัย Academy of Art ก่อตั้งเมื่อปี 1929 ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจิตรกร Richard S. Stephens ซึ่งขณะนั้นดํารงตําแหน่ง Creative Director ของนิตยสาร Sunset Magazine. Richard S. Stephens และภรรยา Mrs. Clara Stephens ได้ร่วมกันเปิดโรงเรียนศิลปะแห่งใหม่ขึ้นใน loft (อาคารแบบที่มีเพดานสูง)ที่เช่าเพียงหนึ่งห้อง ณ. เลขที่ 215 ถนน Kearny โดยสอนวิชาโฆษณา เพียงภายในไม่กี่ปี ได้มีการรวมตัวมืออาชีพชื่อดังด้านศิลปะและดีไซน์ขึ้นเพื่อเป็นคณาจารย์ รวมทั้งปรัชญาของโรงเรียนได้ร่างขึ้นดังนี้ “มืออาชีพแห่งยุคนี้ สอนมืออาชีพในยุคหน้า" โรงเรียนได้ขยายหลักสูตรขึ้นเพิ่มสาขา Fashion Illustration ในปี 1933 และมีสาขา Fine Art ในปี 1936
เด็กดีดอทคอม :: AAU สถาบันศิลปะ พร้อมสาขาที่น่าเรียนสุดๆ
           ในปี 1951 หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Stanford Dr. Richard A. Stephens จึงขึ้นรับตําแหน่งอธิการบดีโรงเรียนแทนผู้ปกครอ ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล โรงเรียนได้เติบโตจากเดิมที่มีนักเรียนจํานวน 50 คนใน loft เช่า 2 ห้อง เป็นจํานวนนักเรียน 5,200 คนและมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ในปี 1966 สํานักงาน Private Postsecondary and Vocational Education แห่งรัฐ California รับรองคุณวุฒิให้เปิดสอนหลักสูตรสําหรับปริญญาตรีทางด้าน Fine Art เริ่มเปิดสอนหลักสูตรปริญญาโทเมื่อปี 1977 และได้รับรองคุณวุฒิในปี 1983
           ต่อมา Dr. Elisa Stephens ผู้เป็นหลานสาวของผู้ก่อตั้ง ได้สืบทอดตําแหน่งอธิการบดีจากบิดาในปี 1992 Dr. Stephens อยู่ในความตั้งมั่นเสมอมาในการขยายหลักสูตรของมหาวิทยาลัย Academy ให้สอดคล้องและทันต่อความเปลี่ยนแปลงของแนวทางธุรกิจและเทคโนโลยีใหม่ๆ และได้จัดเตรียมการเรียนการสอนและสิ่งอํานวยการสอนที่ทันสมัยให้แก่นักเรียน โรงเรียนเปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในปี 2004 ด้วยโรงเรียนได้รับการยกย่องในวิชาหลักสูตรที่ละเอียด มีเนื้อหาครอบคลุมและได้มาตรฐาน
เด็กดีดอทคอม :: AAU สถาบันศิลปะ พร้อมสาขาที่น่าเรียนสุดๆ
           ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีนักศึกษาทั้งหมดประมาณ 17,000 คน จึงเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนทางด้านศิลปะและการออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา นักเรียนสามารถเข้าศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีด้านศิลปกรรมศาสตร์, ปริญญาตรีด้านนิเทศศาสตร์, อนุปริญญา, ปริญญาโทด้านศิลปกรรมศาสตร์, ปริญญาโทด้านนิเทศศาสตร์, ปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ หรือ ประกาศนียบัตร มากกว่า 30 สาขาวิชา

สาขาที่เปิดสอนAdvertising , Animation& Visual Effectes , Architecture , Art Education , Fashion , Fine Art , Game Design , Graphic Design , Illustration , Industrial Design , Interior Architecture & Design , Landscape Architecture , Motion Pictures & Teelevision , Multimedia Communications , Music Productions & Sound Design , Photography , Web Design & New Media
เด็กดีดอทคอม :: AAU สถาบันศิลปะ พร้อมสาขาที่น่าเรียนสุดๆ
การสมัครสำหรับนักศึกษาต่างชาติระดับปริญญาตรี
- APPLICATION FORM ใบสมัคร ส่งใบสมัครพร้อมกับค่าสมัครและค่าธรรมเนียมการศึกษา
- APPLICATION FEE ($100) and TUITION DEPOSIT ($500) ค่าสมัคร ($100) และค่าธรรมเนียมการศึกษา ($500) แนบเช็คต่างประเทศสั่งจ่าย ค่าธรรมเนียมการศึกษา $500 จะนำไปหักคืนให้กับค่าเรียนในเทอมเเรกเมื่อลงทะเบียน.
- REGISTRATION FEE $20 ค่าลงทะเบียน $20 เรียกคืนไม่ได้หลังจากลงทะเบียนแล้ว
- OFFICIAL TRANSCRIPTS ใบรายงานผลการเรียน สำหรับนักศึกษาที่จะเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ยื่นใบรายงานผลการเรียนหรือใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาจากระดับมัธยมศึกษา(ม.6) ที่ระบุวันสำเร็จการศึกษา
- AFFIDAVIT OF SUPPORT หนังสือรับรองจากผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย.
- OFFICIAL/ORIGINAL BANK LETTER หนังสือรับรองจากธนาคาร มีอย่างน้อย $36,000 USD หรือประมาณ 1,080,000 บาทเอกสารเป็นภาษาอังกฤษและเป็นตัวจริง
- PHOTOCOPY OF PASSPORT สำเนาพาสปอร์ต.
- TOEFL OR TOEIC SCORE (ไม่มีคะเเนนขั้นต่ำ)
- PORTFOLIO ผลงานศิลปะที่เคยทำไว้
ค่าเล่าเรียนต่อปีทั้งปริญญาตรีและโท ปีละ $36,000 USD หรือประมาณ 1,080,000 บาท

เด็กดีดอทคอม :: AAU สถาบันศิลปะ พร้อมสาขาที่น่าเรียนสุดๆ


อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/content/studyabroad/24942/AAU-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%86.php#ixzz1N5Szdkrn

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เคลียร์ !! เตรียมพร้อม และตอบทุกคำถามเรื่อง "รับน้อง"

          วัสดีค่ะน้องๆ^^ ประกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรายชื่อผู้ที่ผ่านสัมภาษณ์ ได้เป็นเฟรชชี่เต็มตัวแล้ว พี่มิ้นท์ ก็ขอแสดงความยินดีอีกครั้งค่ะ ตอนนี้ก็เหลือแค่เตรียมตัวไปใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย และไปพบเจออะไรอีกมากมาย รวมไปถึง “การรับน้อง” บางคนก็กลัว (ผู้ปกครองยิ่งกลัวไปใหญ่) บางคนอยากเจอเร็วๆ บางคนก็มีคำถามมากมาย วันนี้พี่มิ้นท์เลยหยิบประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการรับน้อง มาเคลียร์ให้รู้กันไปเลย

เด็กดีดอทคอม :: เคลียร์ !! เตรียมพร้อม และตอบทุกคำถามเรื่อง "รับน้อง"

รับน้องคืออะไร มีไปทำไม
          การรับน้อง เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่หรือตัวแทนนักศึกษาจัดขึ้นเพื่อต้อนรับเฟรชชี่ ซึ่งอาจจะจัดขึ้นก่อนเปิดเทอมหรือเปิดเทอมไปแล้วค่อยจัดก็ได้ ส่วนใหญ่รูปแบบก็จะเน้นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาใหม่ด้วยกัน เป้าหมายหลักๆ ก็เพื่อให้น้องๆ ได้รู้จักมหาวิทยาลัย รู้จักเพื่อนร่วมรุ่นรวมทั้งรู้จักรุ่นพี่มากขึ้น พร้อมทั้งละลายพฤติกรรมของเด็กแต่ละคน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ตลอด 4 ปี
          การรับน้องบางที่มีทั้งรับน้องรวม คือ รับทั้งมหาวิทยาลัย และรับน้องแยกตามคณะ ซึ่งเท่ากับว่าบางที่อาจมีการรับน้องมากกว่าหนึ่งครั้ง ส่วนรูปแบบกิจกรรมก็แตกต่างกันไปตามข้อจำกัดของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เช่น บางที่อาจจะมีรูปแบบทางการ บางที่ก็จัดแบบเฮฮาสนุกสนาน หรือบางที่ก็จัดแบบโหด มันส์ ฮา สำหรับระยะเวลาก็มีทั้ง วันเดียว, 3 วัน, อาทิตย์นึง

การรับน้อง vs การแก้แค้น เหตุผลที่น้องไม่เข้าใจจนกว่าจะได้เป็นพี่
         ประเด็นนี้ พี่มิ้นท์ ขอพูดในกรณีที่อาจจะมีการรับน้องรุนแรงนะคะ (แต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อย) น้องหลายคนอาจจะได้ยินข่าวตามสื่อ ก็เกิดความกลัวว่าการรับน้องเป็นเรื่องของความรุนแรง ก็เลยรู้สึกขยาดกับประเพณีรับน้อง บางทีก็เชื่อว่าการรับน้องเป็นโอกาสที่รุ่นพี่จะได้แก้แค้นและมาลงที่รุ่นน้อง หลังจากที่โดนกดดันมาเมื่อตอนตัวเองอยู่ปีหนึ่ง ซึ่งก็จะเป็นลูกโซ่ไม่มีวันจบ
         อันนี้ พี่มิ้นท์ ก็ไม่ฟันธงนะว่าการรับน้องไม่ใช่เรื่องของการแก้แค้น เพราะการรับน้องแบบพิเรนท์มันมีอยู่จริงแต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของความเป็นรุ่นพี่ที่ดีในแต่ละบุคคลมากกว่า แต่ พี่มิ้นท์ ว่าด้วยธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ด้วยกัน คงไม่มีใครบ้าระห่ำจัดงานขึ้นมาเพื่อคิดแก้แค้นคนที่เพิ่งรู้จักกันหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าด้วยรูปแบบกิจกรรมอาจจะดูเข้มงวด เพื่อให้น้องๆ เกิดความกลัวจึงทำให้พฤติกรรมของรุ่นพี่ออกมาเป็นแบบนั้น ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่ตอนนี้น้องๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อได้เป็นพี่เมื่อไหร่ ก็จะรู้คำตอบค่ะ

ระบบโซตัสคืออะไร มีจริงมั้ย
          ระบบโซตัสเป็นระบบฝึกนักศึกษา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยบางแห่ง หรือบางคณะที่จะนำระบบนี้มาใช้ โซตัสเป็นระบบที่เน้นความเนี้ยบ และอาจจะโหดเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องการให้เกิดความสามัคคี รู้สึกถึงความเป็น Unity (ความเป็นหนึ่งเดียว) และฝึกความมีระเบียบวินัย รวมทั้งอบรมให้น้องๆ รู้จักเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นระบบที่รุนแรงกว่าแบบอื่นค่ะ อาจจะมีการกลั่นแกล้ง ลงโทษ หรือมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมบ้าง จึงทำให้เป็นระบบที่ถูกต่อต้านพอสมควร แต่ในมหาวิทยาลัยของไทยที่มีการใช้ระบบนี้ก็คงไม่รุนแรงเท่าต่างประเทศค่ะ พี่มิ้นท์ไม่ได้มองว่าโซตัสเป็นระบบที่แย่นะคะ เพราะด้านดีของระบบนี้ก็มีเยอะ ถ้านำมาใช้อย่างสร้างสรรค์ก็น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยนะคะ น้องๆ จะได้มีจิตใจที่เข้มแข็งและสามัคคีกัน

เด็กดีดอทคอม :: เคลียร์ !! เตรียมพร้อม และตอบทุกคำถามเรื่อง "รับน้อง"

รับน้องแล้ว รักคณะ/รุ่นพี่/รุ่นตัวเอง มากขึ้นจริงหรือเปล่า
          อย่างที่ พี่มิ้นท์ ได้บอกไปตั้งแต่แรกว่าการรับน้องมีเป้าหมายเพื่อให้เฟรชชี่ได้รู้จักเพื่อน รู้จักมหาวิทยาลัย รู้จักรุ่นพี่ผ่านกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ต่างๆ ถ้าถามว่าคนที่ผ่านการรับน้องมาจะรักคณะ/ สถาบัน/ รุ่นพี่/ รุ่นตัวเองมากขึ้นมั้ย ฟันธงได้เลยค่ะ ว่าส่วนใหญ่ต้องรู้สึกแน่นอน เพราะกิจกรรมจะหล่อหลอมความคิด ความรู้สึกต่างๆ และให้ข้อคิดสอดแทรกเสมอ ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าน้องๆ ไม่เปิดใจ เจอรุ่นพี่กดดันก็ปิดตัวเองซะแล้ว หรือไม่อินกับการรับน้อง เป้าหมายพวกนี้ก็จะไม่เกิดกับน้องแน่นอนค่ะ แต่เรื่องแบบนี้ก็พูดยากค่ะ ต้องพิสูจน์กันเอาเอง^^

ว่ากันด้วยเรื่องพี่ว๊าก
            “พี่ว๊าก” คำนี้น่าจะทำให้น้องๆ หลอน!! บางที่ไม่มี แต่บางที่อาจจะเรียกว่าพี่วินัย/ พี่ระเบียบ/ พี่อบรม ฯลฯ เอาเข้าจริงๆ แต่ละชื่อก็ทำหน้าที่เหมือนกันค่ะ แค่เรียกให้เบาลงเท่านั้นเอง
           หน้าที่หลักๆ ของพี่ว๊ากคือ คอยอบรม ตักเตือนในช่วงรับน้องและมีบุคลิกดุดัน ทำเสียงจริงจังใส่ตลอดเวลา บางทีก็รู้สึกทำตัวไม่มีเหตุผลจนเกลียดหรือเสียความรู้สึกไปเลยก็มี หรืออาจะรู้สึกว่าจะว๊ากใส่ทำไม พูดดีๆ ก็เข้าใจแล้ว รับร้องว่าความรู้สึกเหล่าเกิดขึ้นกับน้องๆ แน่ค่ะ แต่พอจบกิจกรรมความรู้สึกเหล่านี้ก็จะหมดไป และน้องๆ ก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง

รับน้อง ปลอดภัยแค่ไหน
            พี่มิ้นท์ กล้าพูดเลยค่ะ การรับน้องในปัจจุบันสร้างสรรค์ และปลอดภัยขึ้นเยอะ (แต่ก็ไม่ถึงกับปลอดภัย 100% ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะมากกว่า) เพราะมีสื่อคอยเป็นหูเป็นตาอยู่ ดังนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีกฏในเรื่องการรับน้องที่เข้มงวดขึ้น เช่น ห้ามรุ่นพี่แตะเนื้อต้องตัวน้อง(เพื่อไม่ให้เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย) ห้ามด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ห้ามมีแอลกอฮอล์ ห้ามเต้นท่าลามกอนาจาร ฯลฯ หรือบางที่ก็จะรับน้องแบบเปิดกว้าง ให้ผู้ปกครองมาดูได้หรือมีอาจารย์มาคอยคุมตลอดการรับน้อง ซึ่งกฎพวกนี้จะทำให้การรับน้องมีมาตรฐานและปลอดภัยขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ยกเว้นเสียแต่ว่ารุ่นพี่จะทำผิดกฎเสียเอง เช่น พาไปรับน้องต่างจังหวัดโดยไม่แจ้งให้อาจารย์ทราบ ถ้ามีแบบนี้ พี่มิ้นท์ ว่าน้องๆ ควรใช้วิจารณญาณหรือปรึกษาผู้ปกครองก่อนก็ดีค่ะ
         
เด็กดีดอทคอม :: เคลียร์ !! เตรียมพร้อม และตอบทุกคำถามเรื่อง "รับน้อง"

ไม่ได้ท้าทาย แต่ไม่เข้ารับน้องจะเป็นอะไรมั้ย
          ส่วนใหญ่ถ้าจัดกิจกรรมรับน้องขึ้นมา ความคาดหวังของรุ่นพี่ก็คืออยากให้น้องๆ มาร่วมงาน แต่ในทุกๆที่ และทุกๆ ปี จะมีน้องบางส่วนที่ไม่อยากเข้าร่วม และก็มานั่งกังวลว่าถ้าไม่เข้ารับน้องจะเป็นอะไรมั้ย จริงๆ แล้วถ้าไม่เข้ารับน้องก็ไม่ผิดกฎหรือทำให้เรียนไม่จบหรอกค่ะ แต่น้องๆ อาจถูกกดดันทางด้านจิตใจจากเพื่อนหรือรุ่นพี่เพราะเค้าจะรู้สึกว่าน้องไม่เป็นส่วนหนึ่งของคณะ อันนี้ในกรณีที่น้องอยากโดดรับน้องเอง แต่ถ้ามีเหตุผลที่เพียงพอ เช่น ปัญหาสุขภาพ ถ้าแจ้งไว้รุ่นพี่ต้องเข้าใจแน่นอนค่ะ
          แต่อย่างว่าแหละค่ะ การรับน้องมีข้อดีมากกว่าข้อเสียและก็เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่ยอมเหนื่อยจัดขึ้นมา อย่าให้เหตุผลเพียงแค่เรื่องความกลัวมาปิดโอกาสดีๆ เลยนะคะ^^


มาเตรียมความพร้อมก่อนรับน้องกันเถอะ
         เคลียร์กันมาพอสมควร หวังว่าน้องๆ น่าจะอยากรับน้องกันแล้ว ถ้างั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันเถอะ
         1.เตรียมตัว เพราะงานรับน้องจะต้องใช้พลังเยอะมาก ถ้ากิจกรรมไม่เหนื่อย ก็สันทนาการกันเหนื่อยไปข้างนึงล่ะ ฟิตร่างกายมาให้พร้อมดีที่สุด
         2.เตรียมใจ เตรียมใจรับความสนุก ความกดดัน ความสุข ความซึ้ง ฯลฯ ถ้าเตรียมใจมาไม่ดี ระวังจิตหลุด ล้อเล่นค่ะ^^
         3.เตรียมเสื้อผ้า ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจแล้ว ก็เตรียมเสื้อผ้าพร้อมเละกันได้เลย เพราะรับน้องทั้งที ไม่เละก็ไม่มันส์ค่ะ

เด็กดีดอทคอม :: เคลียร์ !! เตรียมพร้อม และตอบทุกคำถามเรื่อง "รับน้อง"

           สิ่งที่อยากจะบอกน้องๆ ก็คือ การรับน้องไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือน่ากลัวอย่างที่คิด การรับน้องที่สร้างสรรค์และสุภาพก็มีมาก อย่าให้ภาพการรับน้องเก่าๆ มาทำให้น้องระแวงแล้วไม่เปิดใจรับสิ่งเหล่านั้น ถ้าการรับน้องไม่มีประโยชน์จริง ก็คงไม่ทำต่อกันมาเป็นประเพณีจนถึงทุกวันนี้หรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้สื่อก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น กระบวนการทางกฎหมายก็มี ความรุนแรงก็ย่อมลดลงตามลงไปเพราะไม่มีสถาบันไหนที่อยากให้มหาวิทยาลัยของตนเองเสียชื่อเสียงแน่นอน ขอแค่น้องๆ ลองเปิดใจดู อย่าลืมว่าการรับน้องมีครั้งเดียวในชีวิต จะยอมสูญเสียโอกาสนี้ไปจริงๆ หรือ??
              แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้พี่มิ้นท์ก็ไม่ได้อยากชี้นำความคิดให้น้องๆ ต้องเข้าร่วมรับน้องนะ ของแบบนี้ก็ต้องอยู่ที่วิจารณญาณของตัวเองด้วย ถ้าคิดว่าการรับน้องในสถาบันตัวเองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก็ควรเลี่ยง อย่าตกไปเป็นทาสความคะนองของรุ่นพี่ค่ะ
               ไหนน้องๆ ลองมาแชร์กันหน่อยว่าตอนนี้จะรับน้องแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง ส่วนพี่มิ้นท์ก็ขอให้น้องๆ มีความสุขและสนุกกับบรรยากาศการรับน้องนะคะ

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Street food on Thai’s Children Day


Every second week of January is Thai’s children day.  There are event held at many places around Bangkok and I managed to squeezed in three today. It was so much fun and so much food and kids around.   Because I walked so much I managed to have only snacks for lunch.

First thing that caught my eyes when I jumped off 100 baht  Tuk Tuk ride (yep a rip off ..but I allowed that because there’s absolutely no taxi to catch) was the cart that sell corns and grilled bananas.


Grilled Corn
When I was young, I used to love the steamed corn and grilled bananas.  The corn taste the best when dip in salt water, but the corns I saw today though were grilled and dipped in coconut milk.


The boy is looking at my lunch!
I couldn’t decide whether or not I should get bananas or corn, but in the end I chose the corn just because the boy in front of me did.  It was 20 baht each ( US$0.75)  Then just about few steps away from the corn stall, I saw something that made me a little bit shocked.  These were “Baluts” , a Philippines’ delicacy. Basically the Baluts are fertilized eggs with nearly developed embryo inside.  I never seen one before so I stopped by and chat to the sellers for a while.

The Bolut seller, what’s on the plate are actually Baluts, 15 Baht per set including dipping sauce!
They’ve been selling  Balut for a while around the area,  but didn’t really give me more details apart from trying to sell them to me, in which I politely declined.  They said it tasted so good, but when I asked what good about it, a girl who was probably the daughter said ” The dipping sauce”  ….Hmm….

Different stages of Balut
So, the guy busted in and trying to sell the products to me, but once again, I politely declined and walked off to much nicer type of eggs.  Seriously, I never seen them in Bangkok before. Or am I not up-to-date anymore with the street food I wonder.
Next stop for my mini lunch was quail eggs, my other childhood favorite snacks. At school I used to have it once in a while. There were 10 eggs in one serve and costed 7 bahts which I thought was expensive back then, now the serve is smaller, the price is higher and I missed the chili sauce on top.


Quail Eggs in the mold
To make this snack, it is very easy, it’s like making the fried eggs in the mold, and put soya sauce or Maggi on top and lots of pepper.


The Quail eggs in foam containers
I was about to finish making my order when all of the sudden …..


Hungry groups of kids
…Three very hungry boy and a grumpy little girl busted in a and took all the eggs. Luckily I was left with one serve.
———————————

Coconut Juice in a glass
I ended my mini-meal with coconut juice.  It was 10 baht a glass, the juice seller was telling me about coconut shortage where sometimes it is hard to order coconuts and she hasn’t seen the shortage like this before.  The price of one coconut is now about 17 baht wholesell so she had to mix the coconut juice with syrup and lots of ice to make some profits.
———————–
It was fun walking around on children’s day, because there are so many cute kids around with their parents with lots of toys in their hands, but there are some kids that are not that lucky…

18 months old boy, a grandson of the street food seller.
This boy’s mother was very young, I’d say she’s probably in her teen and should’ve been in school rather than raising kid. His grandmother sells fried banana and raised him while his mother is at work.

Construction Worker's kids
These two kids were very dirty when I saw them. I learnt later that they were construction workers kids that came with their grandmother who was working nearby. The girl was so cute and even offered me her pink wafer  at one stage, but the boy looked horrified when he saw my camera.
On the way home, I was thinking about the kids I saw today, especially the construction worker’s kids, who will need to go to school soon. They will need to settle down somewhere to get proper education. However, this is tough because their parents do move around to where the work are.  All I can do now, I guess, is just pray for them and hope that they will get at least compulsory education they deserve
.